ข้อ ใด ไม่ใช่ ประเภท ของ คอมพิวเตอร์

โปงลาง-สะ-ออ-น-วง-แตก

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและทำงานได้รวดเร็วที่สุดจึงมีประสิทธิภาพสูงในการทำงาน ราคาก็จะแพงมากที่สุดด้วย ความเร็วในการทำงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะมีหน่วยเป็น นาโนวินาที (nanosecond) หรือ วินาที จึงเหมาะจะใช้กับงานที่ต้องมีการคำนวณที่ซับซ้อน เช่น งานทางด้านวิทยาศาสตร์ การพยากรณ์อากาศ งานกราฟิก การออกแบบเครื่องบิน เป็นต้น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะถูกใช้เป็นคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางที่มีการทำงานในลักษณะของมัลติโปรเซสซิง (Multiprocessing) ทำให้สามารถประมวลผลหลายๆ งานพร้อมกันได้ด้วยหน่วยประมวลผลหลายๆ ตัว พร้อมๆ กัน 2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe computer) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีความเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานรองลงมาจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์รับส่งข้อมูลได้หลายตัวพร้อมกัน มีความเร็วในการประมวลผลข้อมูลสูงมาก เมนเฟรมจะถูกใช้เป็นคอมพิวเตอร์ศูนย์กลาง ทำให้สามารถประมวลผลหลายๆงานพร้อมกันได้ด้วยหน่วยประมวลผลหลายๆ ตัวพร้อมกันเช่นเดียวกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ด้วยหลักการของมัลติโปรแกรมมิง (Multiprogramming) 3. มินิคอมพิวเตอร์ (minicomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดกลางที่มีความเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานต่ำกว่าเมนเฟรม จึงมีราคาถูกกว่า แต่ยังใช้หลักการของมัลติโปรแกรมมิง ทำให้สามารถใช้งานหลายคนพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน มินิคอมพิวเตอร์จะถูกใช้เป็นคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางในองค์กรขนาดกลางที่มีผู้ใช้งาน 100-200 คนพร้อมกัน 4.

คอมพิวเตอร์แบ่งตามขนาดออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง จงอธิบาย - 5303103355Leo

3 มินิคอมพิวเตอร์ ( Minicomputer) มินิคอมพิวเตอร์ คือ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ๆ ซึ่งสามารถบริการผู้ใช้งานได้หลายคนพร้อม ๆ กัน แต่จะไม่มีสมรรถภาพเพียงพอที่จะบริการผู้ใช้ในจำนวนที่เที่ยบเท่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ จึงทำให้มินิคอมพิวเตอร์เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลาง หรือสำหรับแผนกหนึ่งขององค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น 3. 4 ไมโครคอมพิวเตอร์ ( Microcomputer) ไมโครคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก หรือเรียกว่า พีซี (Personal Computet: PC) สามารถใช้เป็นเครื่องต่อเชื่อมในเครือข่าย หรือใช้เป็นเครื่องปลายทาง (terminal) ซึ่งอาจจะทำหน้าที่เป็นเพียงอุปกรณ์รับและแสดงผลสำหรับป้อนข้อมูลและดูผลลัพธ์โดยดำเนินการการประมวลผลบนเครื่องอื่นในเครือข่าย กล่าวได้ว่าไมโครคอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยประมวลผลกลางเป็นไมโครโพรเซสเซอร์ ใข้งานง่าย ทำงานในลักษณะส่วนบุคคลได้ สามารถแบ่งแยกไมโครคอมพิวเตอร์ตามขนาดของเครื่องได้ดังนี้ 1. คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ( Desktop computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กถูกออกแบบมาให้ตั้งบนโต๊ะมีการแยกชิ้นส่วนประกอบเป็น ซีพียู จอภาพ และแผงแป้นอักขระ 2. โน้ตบุ๊ก (Notebook or laptop) โน้ตบุ๊ก คือ คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ ถูกออกแบบไว้เพื่อนำติดตัวไปใช้ในที่ต่างๆ มีขนาดเล็ก และน้ำหนังเบา ในปัจจุบันมีขนาดพอ ๆ กับสมุดที่ทำด้วยกระดาษ 3.

ประเภทของคอมพิวเตอร์ - การประมวลผลข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

ประเภทของคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน สามารถแบ่งคอมพิวเตอร์ในรุ่นปัจจุบันออกได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้ 3.

Facebook

เฉลยข้อสอบ - Lunsakawong mon

ข้อ ใด ไม่ใช่ ประเภท ของ คอมพิวเตอร์ ออนไลน์

Pantip

  1. ตู้เสื้อผ้าอลูมิเนียม บานเลื่อน
  2. Gat eng ออก อะไร บ้าง 62
  3. ข้อ ใด ไม่ใช่ ประเภท ของ คอมพิวเตอร์ ออนไลน์
  4. Fmea 5 edition ภาษา ไทย latest
  5. คอมพิวเตอร์แบ่งตามขนาดออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง จงอธิบาย - 5303103355Leo
  6. ตู้ แช่ แข็ง haier 6. 9 คิว ราคา
  7. เสื้อ แขน ยาว ฟิ ล่า
  8. วิธีสร้างลายเซ็นอีเมลพร้อมโลโก้ | Logaster

มินิคอมพิวเตอร์ (minicomputer) เครื่องคอมพิวเตอร์ประเภทมินิคอมพิวเตอร์ นั้นก็จะคล้ายๆกับ ประเภท เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ แต่ด้านความสามารถในการประมวลผลนั้น จะไม่สามารถเทียบเท่ากับ ประเภทเมนเฟรมได้ แต่ก็ยัง สามารถบริการผู้ใช้งานได้หลายคนพร้อม ๆ กัน แต่จะไม่มีสมรรถภาพเพียงพอที่จะบริการผู้ใช้ในจำนวนที่เทียบเท่าเมนเฟรม คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้มักจะใช้กับ องค์กรขนาด กลาง จนถึง ขนาดเล็ก หรือ อาจจะใช้เป็นหน่วยย่อยๆขององค์กรใหญ่ๆ ก็ได้ 4. ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) หรือ พีซี (personal computer หรือ PC) ไมโครคอมพิวเตอร์ คือ คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (desktop computer) หรือขนาดเล็กกว่านั้น อาทิเช่น notebook, netbook และ Tablet เมื่อปีพ. ศ. 2518 เริมมีการนำ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้เข้ามาใช้และได้รับการนิยมมากจนถึงปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ จะมีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการใช้งาน ประเภทส่วนบุคคลทั่วๆไป เช่น ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมส์ ทำงานเอกสาร และอื่นๆอีกตามสเปกของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ ราคาของคอมพิวเตอร์ประเภทนี้ก็จะไม่แพงมากนัก ก็ยังคงขึ้นอยู่กับสเปกของแต่ละเครื่องไป

ไฮบริดคอมพิวเตอร์ ( Hybrid computer) ทำงานโดยใช้เทคนิคการนำลักษณะของคอมพิวเตอร์แบบแอนะล็อกและแบบดิจิตอล มาทำงานร่วมกัน เช่น ในการพยากรณ์อากาศ จะใช้การวัดค่าอุณหภูมิ ความกดดันอากาศในระบบข้อมูลแบบแอนะล็อก แล้วนำข้อมูลที่วัดได้ไปแปลงเป็นค่าตัวเลขที่สามารถส่งไปทำการประมวลผลในระบบดิจิตอลคอมพิวเตอร์ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แน่นอน เพื่อการพยากรณ์อากาศที่ถูกต้องแม่นยำ ๐ การแบ่งประเภทคอมพิวเตอร์ตามลักษณะการใช้งาน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. คอมพิวเตอร์แบบใช้งานทั่วไป (General Purpose compute) เป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานต่างๆ ได้หลายด้านภายในเครื่องเดียวกัน โดยการเขียนโปรแกรมคำสั่งสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่เราต้องการ เช่น การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์กับระบบบัญชี การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์กับระบบสินค้าคงคลัง การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์กับระบบบัญชีเงินเดือน เป็นต้น 2. คอมพิวเตอร์แบบใช้งานเฉพาะกิจ ( spesial purpose computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับงานเฉพาะอย่าง เช่น คอมพิวเตอร์ที่ใช้ตรวจวัดคลื่นหัวใจคอมพิวเตอร์ที่ใช้ควบคุมระบบการบินของเครื่องบิน คอมพิวเตอร์ที่ใช้ตรวจวัดคลื่นสมอง เป็นต้น ๐ การแบ่งประเภทคอมพิวเตอร์ตามขนาดของเครื่อง เป็นการแบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์โดยพิจารณาตามขนาดของเครื่อง อันได้แก่ความเร็วในการประมวลผล และประสิทธิภาพในการทำงาน สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทคือ 1.