08 September 2020 | เมื่อ 12:04 PM เวลาเอาทองคำไปขาย หลายคนมักเจอปัญหาเรื่องราคารับซื้อ ที่คิดว่าร้านทองกดราคาหรือไม่ ทำไมขายไม่ได้ราคาตามที่ต้องการ แล้วทำไมต้องหักเยอะ หักค่าอะไรบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วการขายทองอาจต้องทำความเข้าใจในเรื่องของ ทองคำ ที่ซื้อกันก่อน ว่าทองที่มีอยู่นั้น เข้าเกณฑ์ตามที่ร้านทองจะรับซื้อหรือไม่ หากสงสัยว่าคืออะไร วันนี้มาหาคำตอบกันว่า "ทองแบบไหนที่ร้านทองจะรับซื้อเต็มราคา " ทองที่มีเปอร์เซ็นต์เต็ม อย่างที่หลายคนรู้ว่า ทองคำที่ขายตามร้านทองและในไทยส่วนใหญ่จะมีอยู่ 2 แบบ คือ ทอง 99. 9% คือทองแท้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ค่อนข้างมีความอ่อนตัวมาก ไม่ค่อยนิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับทองเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะทำเป็นทองคำแท่ง หรือทองสั่งทำพิเศษ และมักซื้อขายกันเป็น กิโลกรัม ส่วนอีกแบบคือ ทอง 96. 5% เป็นทองมาตรฐานในไทย ที่ได้รับความนิยมมากกว่า ซึ่งทองที่เห็นตามร้านทองส่วนใหญ่จะเป็นทองแบบนี้ เนื่องจากมีความแข็งแรง จึงนิยมผลิตเป็นทองคำแท่ง และ ทองรูปพรรณ อย่าง สร้อยทอง, สร้อยข้อมือ, แหวนทอง, จี้ทอง ฯลฯ ซึ่งราคาทองทั้งสองแบบค่อนข้างแตกต่างกันมาก โดย ราคาทอง 99. 9% จะแพงกว่าราคาทอง 96. 5% ดังนั้น ร้านทองจะทำการตรวจสอบก่อนว่าทองที่นำมาขายนั้นเป็นทองเปอร์เซ็นต์อะไร จะได้ตีราคาให้ถูก เพราะหากเป็นทองเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่านั้น บางร้านอาจไม่รับซื้อ แต่ก็มีวิธีสังเกตุง่ายๆเช่นกัน เพราะหากเป็นทองคำแท่งจะมีการปั๊มบอกเปอร์เซ็นต์ทองบนหน้าทองเลย ส่วนทองรูปพรรณ จะสังเกตุได้ตามตะขอ, เนื้อแหวนด้านใน " ร้านทองจะทำการตรวจสอบทองที่นำมาขายว่าเป็นทองเปอร์เซ็นต์อะไร จะได้ตีราคาให้ถูก หากเป็นทองเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าทอง 96.
ทองที่มีน้ำหนักครบ น้ำหนักทองถือเป็นหัวใจสำคัญทั้งตอนซื้อและขายทอง เช่น 1 สลึก, 2 สลึง และ 1 บาท เป็นต้น โดยร้านทองจะชั่งน้ำหนักให้ดูทุกครั้งว่าครบเต็มจำนวนหรือไม่ โดยหน่วยน้ำหนักทองในตราชั่งมีหน่วยเป็นกรัม (ทองคำแท่ง 1 บาท หนัก 15. 244 กรัม, ทองรูปพรรณ 1 บาท หนัก 15. 16 กรัม ส่วนน้ำหนักอื่นๆ ก็ต่างกันเช่นกัน) หากน้ำหนักทองหาย ไม่ขาด จะได้ราคารับซื้อเต็มจำนวน ส่วนใหญ่ทองรูปพรรณมีโอกาสน้ำหนักทองหายมากกว่าทองคำแท่ง เพราะการใส่เป็นเครื่องประดับ ยิ่งใส่เป็นประจำไม่ถอดก็มีโอกาสสร้อยคอจะหลุด แหวนบุบ ตะขอหัก ทำให้น้ำหนักทองหาย 3. ทองที่มีโลโก้หรือตราสัญลักษณ์ ตราสัญลักษณ์ หรือโลโก้ ใช้บอกที่มาของแหล่งผลิต ซึ่งร้านทองรายย่อยจะซื้อทองจากร้านทองรายใหญ่มาขาย ช่วยการันตี สร้างความน่าเชื่อถือได้ดีกว่า มีผลให้ขายทองได้มากกว่าทองที่ไม่มีโลโก้ โดยทองคำแท่งจะเห็นโลโก้ง่ายกว่า ถ้าเป็นทองรูปพรรณ อาจต้องใช้แว่นขยายเพื่อตรวจสอบเพราะเนื้อทองน้อย ส่วนใหญ่อยู่ที่ใต้ทองแหวน ตะขอสร้อย เป็นต้น 4. ทองคำแท่ง ทองคำแท่ง เป็นสินทรัพย์ที่ซื้อเพื่อ การลงทุน เก็งกำไร เก็บเป็นสมบัติ อีกทั้งโอกาสชำรุดและน้ำหนักทองหายมีน้อยกว่าทองรูปพรรณ ปัจจุบันทองคำแท่งถูกห่อหุ้มด้วยบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง ทำให้เก็บรักษาได้ดีกว่าทองรูปพรรณ สำหรับเกณฑ์การรับซื้อทองรูปพรรณ ตามที่ สคบ.
ในทุก ๆ วัน ราคาทองมีการปรับเปลี่ยนขึ้นลงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ในช่วงที่ราคาทองขึ้นสูงมาก ทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะนำทองที่ซื้อเก็บไว้ออกมาขาย และเมื่อเรา ขายทอง เราก็อยากจะได้ราคาทองที่เต็ม ๆ เท่ากับ ราคาทองวันนั้น ใช่ไหมล่ะคะ แต่ที่หลายคนเจอ กลับเป็นการถูกหักราคา มาดูกันดีกว่า ว่าทำไมขายทองแล้วถูกหักราคา แล้วระหว่างทองแท่งกับทองรูปพรรณ โดนหักราคาเหมือนกันด้วยไหม?
*** หมายเหตุ: ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณ ตามหลักเกณฑ์ สคบ. กำหนดให้ร้านทองสามารถหักได้ไม่เกิน 5% จากราคาทองคำแท่งรับซื้อในวันนั้น ๆ ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวใช้เฉพาะกรณีซื้อ-ขายร้านเดิมเท่านั้น *** ราคาทองคำแท่งวันอังคารที่ 12 ต. ค. 64 ครั้งที่ 1 เวลา 09:28 น. [-250] 27800 - 27900 -- ครั้งที่ 2 เวลา 12:09 น. [+50] 27850 - 27950 -- ครั้งที่ 3 เวลา 14:15 น. [-50] 27800 - 27900 -- ครั้งที่ 4 เวลา 15:42 น. [-50] 27750 - 27850 -- ครั้งที่ 5 เวลา 16:14 น. [+50] 27800 - 27900 -- คำถามที่พบบ่อย
มี. ค. 11 ทองคำแท่ง VS ทองคำรูปพรรณ เลือกซื้อแบบไหนดี? ทองคำแท่ง ที่นิยมซื้อเพื่อการลงทุน คือ ทองคำแท่ง96. 5% แต่ ทองคำแท่ง99. 99% ก็ซื้อลงทุนได้ แต่ยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าใดนัก ขั้นต่ำที่ซื้อได้คือ มีตั้งแต่ 1บาท, 2บาท, 5บาท, 10บาท, ไปจนถึงทองคำแท่งละ 1 กิโลกรัมก็มี ทองรูปพรรณ มีความบริสุทธิ์ให้เลือก 2 แบบ คือ 96. 5% และ 99. 99% (แต่99.
สมาคมค้าทองได้ประกาศกำหนดราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณว่าให้ลดจากราคารับซื้อคืนทองคำแท่งได้ไม่เกิน 5% โดยอิงจากราคาทอง ณ ปัจจุบัน ถ้าเกิดซื้อมาจากร้านเดียวกัน แต่จะให้ดี ทองรูปพรรณที่จะนำไปขาย ควรนำไปขายในร้านเดิมที่ซื้อมา เพื่อให้ไม่ถูกหักราคาไปมากกว่าเดิม แต่สุดท้ายแล้ว ก็จะถูกคำนวณรวมไปกับค่าเสื่อมและเปอร์เซ็นต์ของทองคำที่เหลืออยู่ด้วยเช่นกัน ระหว่าง ขายทอง แท่ง กับ ขายทองรูปพรรณ หักราคาเหมือนกันไหม? โดยปกติแล้ว เวลาที่ไปขายทอง ทองรูปพรรณจะมีราคารับซื้อคืนที่ต่ำกว่าราคารับซื้อคืนทองคำแท่ง เนื่องจากว่า ทองรูปพรรณแต่ละชิ้นนั้นมีน้ำประสานทองที่จะต้องใช้เวลาผลิตทองรูปพรรณปนอยู่ด้วย ไม่ใช่เนื้อทองล้วน ๆ แต่อย่างใด แต่ทองแท่งนั้น เป็นน้ำหนักของทองที่มาจากทองล้วน ๆ ราคารับซื้อคืนทองคำแท่งจึงได้ราคาที่ดีกว่านั่นเอง ทองที่ดี ที่มีโอกาสขายได้ราคาเต็มแบบไม่โดนหัก ถึงถ้าโดนหักก็จะโดนไม่เยอะมาก มีดังนี้ 1. ทองที่มีเปอร์เซ็นต์เต็ม ปกติทองจะมีเปอร์เซ็นต์อยู่ 2 รูปแบบ คือ ทอง 99. 9% ที่จะขายได้ราคาดีกว่า และทอง 96. 5% ซึ่งเป็นทองมาตรฐานในไทย ร้านค้าจะทำการตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ของทองก่อนตีราคา ถ้าเป็นทองคำแท่งจะมีการปั๊มไว้ที่หน้าของทองแท่งเลย แต่ถ้าทองรูปพรรณ จะสังเกตได้ตามข้อหรือเนื้อแหวนด้านใน หากทองของเรามีเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่านี้ บางร้านอาจจะไม่รับซื้อทองของคุณได้เลย 2.
5% หรือ ทอง 99. 9% บางร้านอาจไม่รับซื้อ " ทองที่มีน้ำหนักครบ น้ำหนักทอง ก็สำคัญไม่แพ้กัน ตอนขายทองก็เหมือนกับตอนซื้อทอง ที่เราเลือกได้ว่าจะซื้อน้ำหนักทองเท่าไหร่ เช่น 1 สลึง, 2 สลึง, 1 บาท แล้วร้านทองก็ชั่งน้ำหนักให้ดูทุกครั้งว่าครบเต็มจำนวนหรือไม่ ซึ่งหน่วยน้ำหนักทองที่เห็นในตราชั่งจะมีหน่วยเป็น " กรัม " ( ทองคำแท่ง 1 บาท หนัก 15. 244 กรัม, ทองรูปพรรณ 1 บาท หนัก 15.