ในยุคที่ผู้คนส่วนใหญ่มีแรง บันดาลใจเป็นสิ่งขับเคลื่อน การใช้ชีวิตแบบนี้ คงปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าการท่องเที่ยวคือแรงขับเ คลื่อนอันแรงกล้า เราตั้งใจทำงานกันอยู่ทุกวั นนี้ก็เพราะอยากมีเงินมากมา ยเอาไปใช้ท่องโลกที่กว้างให ญ่ไพศาล แถมเลื่อนฟีดเฟสบุ้คไปทางไห นก็เจอแต่เพจรีวิวท่องเที่ย ว พอเห็นแล้วมันก็ตาลุกวาวอยา กจะเก็บกระเป๋าออกไปซะตอนนี ้เลย และถ้าพูดถึง Destination ในฝันของคนส่วนใหญ่คงหนีไม่ พ้นยุโรป ประเทศต ่างๆ ของยุโรปนั้นชวนเหมือนเกินฝ ัน เหมือนคุณได้หยุดไปอยู่ในเท พนิยาย แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น มีเรื่องที่น่าสะพรึงที่คุณ ต้องผ่านพ้นนั่นคือการขอวีซ!!!! หลายคนคงกังวลใจไม่น้อยสำหรับการขอวีซ่าแชงเก้นไปเที่ย วยุโรป บางคนเก็บเงินมาตั้งนานยังไม่แตะแสนสักที อิตาลีก็รอคุณอยู่ จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าไปเพรา ะกลัววีซ่าจะไม่ผ่าน ในวันนี้เราเลยจะมาบอกคุณว่า ขอวีซ่าแชงเก้นไม่ได้น่าลัวอย่างที่คิดนะ ไม่ต้องมีเงินล้นฟ้า แตะแสน แตะล้านก็ผ่านกันมาแล้ว! เพราะงั้นลองไปดูกันดีกว่าว ่ามีเงินประมาณเท่าไหร่ถึงจะดี ต้องมีเงินเท่าไหร่?? แน่นอนว่าพอพูดเรื่องวีซ่า เงินในบัญชีคงทำให้หลายคนกังวล พอเปิดกระทู้ดูพันทิป แหม ทำไมมีแต่คนรวย มีเงินในบัญหลักแสน หลักล้านกันซะหม๊ด เอาล่ะ ถ้าพูดถึงหลักความเป็นจริง หากคุณต้องการจะท่องเที่ยวยุโรป การจะมีเงินในบัญชีหลักร้อย หลักพันก็อาจจะไม่ผ่านแน่นอน ทางสถานทูตเขาจะพิจารณาจากความเหมาะสมหลายๆ อย่างประกอบกัน ดังนั้นเงินที่ควรมีในบัญชี = เงินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเดินทางประมาณ 2-3 เท่านั้น เราจะมาแบ่งออกเป็น 2 กรณีกันดู 1.
ขอวีซ่า 26 ประเทศในยุโรป Statement ต้องมีเงินติดในบัญชีเท่าไหร่? ขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ครั้งแรก ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง? การ ขอวีซ่าเที่ยวยุโรป ถือเป็นความฝันอย่างหนึ่งของใครหลาย ๆ คน แม้ว่า 26 ประเทศนี้จะไม่เคร่งตรวจพาสปอร์ตเหมือนประเทศเกาหลีใต้ที่กลัวคนไทยไปเป็นผีน้อยหนีเข้าเมืองไปทำงาน แต่ก็มีวิธีการขอวีซ่าเชงเก้นที่ละเอียดเพื่อป้องกันเหตุหนีเขาเมืองอยู่เหมือนกัน และมีการกำหนดว่าทุกครั้งที่ขอวีซ่าในช่วงระยะเวลา 180 วัน จะเดินทางหรืออยู่อาศัยใน 26 ประเทศนี้รวมกันได้ไม่เกินระยะเวลา 90 วัน ก็เท่ากับว่าใน 1 ปี (360 วัน) คนไทยจะไปเที่ยวเล่นหรือทำงานอยู่ในประเทศฝั่งยุโรปได้ไม่เกิน 180 วันนั่นเอง ◊ วีซ่า VS วีซ่า เชงเก้น คืออะไร? เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
กรณีเดินทางกับทัวร์ สำหรับการเดินทางกับทัวร์ ควรที่จะมีเงินมากกว่าค่าทัวร์ประมาณ 3 เท่า เช่น ค่าทัวร์ 39, 000 บาท ก็ควรที่จะมีเงินอยู่ในบัญชีประมาณแสนกว่าบาท เอ้า! ก็แตะหลักแสนอยู่ดี ใจเย็นๆ แล้วรอฟังต่อ 2. กรณีที่เดินทางเอง คุณต้องเขียนแผนการเดินทางให้ละเอียด นอนที่ไหน จองโรงแรมที่ไหน ใบจองโรงแรม เดินทางอย่างไร ต่อรถไฟอะไร ใบจองต่างๆ ต้องเตรียมให้พร้อม นอกจากนี้คุณต้องคำนวณค่าใช้จ่ายในแต่ละวันด้วยว่าคุณจะใช้วันละเท่าไหร่ ไปกี่วัน เพราะฉะนั้นคุณต้องมีเงินในบัญชีให้ครอบคลุมทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ค่าเดินทางไปจนถึงค่าอาหาร ค่าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างสมเหตุสมผล อีกทั้งควรมีเงินเหลือในบัญชีหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วย แบบนี้ก็อุ่นใจได้ว่าผ่าน! แล้วเงินไม่ถึงแสนล่ะ ทำยังไงดี! หลายคนเริ่มตุ้มๆ ต่อมๆ เอ้า คำนวณไปมาก็ยังไม่ถึงแสน จะเที่ยวเองหรือเที่ยวกับทัวร์ก็มีเงินไม่ถึงแสน แบบนี้ทำยังไงดี จะไม่ผ่านหรือเปล่า บอกเลยว่ากรณีที่มีเงินไม่ถึงแสนแล้วผ่านน่ะ เยอะมาก! แต่คนที่มีฝากประจำเป็นล้านแต่ไม่ผ่านก็มีเช่นกัน เพาะฉะนั้นหากคุณรู้ตัวว่าเงินในบัญชียังดูน้อยเกินไป มีแค่ไม่กี่หมื่น คุณจำเป็นที่จะต้องงัดหลักฐานอื่นๆ มาเป็นหลักประกันอย่างแน่นหนาว่า 'ฉันจะกลับบ้านแน่นอน' เช่น หลักฐานการทำงาน คนที่ทำองค์กรชื่อดัง บริษัทใหญ่ๆ มีแนวโน้มว่าจะผ่านวีซ่าได้ง่าย นอกจากนี้ข้าราชการ วิสาหกิจก็ปลอดภัยหายห่วงเช่นกัน แต่ถ้าทำข้าราชการแล้วมีแค่ 800 บาทในบัญชีก็ไม่ผ่านนะจ้ะ ทุกอย่างมันต้อง Make sense ด้วยนะเอ้อ!